รศ.วงกต วงศ์อภัย รองผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) พร้อมด้วย ดร.ศรวณีย์ สิงห์ทอง ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายเพื่อความยั่งยืน และ ดร.นัทธมน สุวรรณพรหม นักพัฒนานโยบาย ฝ่ายนโยบายเพื่อความยั่งยืน สอวช. ร่วมคณะผู้แทนของประเทศไทย ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 30 (COP 30) ระหว่างวันที่ 10 – 21 พฤศจิกายน 2568 โดย สอวช. ทำหน้าที่เป็นผู้แทนหลักของประเทศไทยในการเจรจากลไกเทคโนโลยี (Technology Mechanism) ด้วยบทบาทหน่วยประสานงานกลางด้านการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย (National Designated Entity: NDE Thailand) ภายใต้กลไก UNFCCC
สำหรับประเด็นการเจรจาที่สำคัญกลไกเทคโนโลยีภายใต้การประชุม COP30 ประกอบด้วย 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1) Joint annual report of the Technology Executive Committee and the Climate Technology Centre and Network (2) Linkages between the Technology Mechanism and the Financial Mechanism (3) Review of the functions of the Climate Technology Centre (4) Technology implementation programme
ในการประชุมทางผู้แทน ดร.ศรวณีย์ ได้ชี้ให้เห็นความสำคัญของระบบนวัตกรรมแห่งชาติ (National Innovation System) การพัฒนาขีดความสามารถของแต่ละประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยี และเป้าหมายร่วมกันโดยเชื่อมโยงกับเครื่องมือการประเมินสถานการณ์ดำเนินงานระดับโลก (Global Stocktake: GST) ทั้งประเด็นด้านเทคโนโลยีและการรายงานของ GST ที่มีอยู่เป็นประจำ เพื่อจัดลำดับการพัฒนาเทคโนโลยีและการสนับสนุนดังกล่าว ให้บรรลุเป้าหมายภาพใหญ่ที่ดำเนินร่วมกันในหลายประเทศ ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยและได้ยึดประเด็นดังกล่าวในการจัดทำ Technology implementation programme และเป็นผลลัพธ์ของการประชุม COP30 นี้
อย่างไรก็ตาม มี 2 หัวข้อที่จะมีการหารือต่อในการประชุมองค์กรย่อยด้านการดำเนินงาน สมัยที่ 64 (The Sixty-third session of Subsidiary Body for Implementation: SBI 64) ซึ่งจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2569 ต่อไป เนื่องจากยังไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันในที่ประชุมจากกลุ่มของประเทศพัฒนาแล้วและกลุ่มประเทศต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ สอวช. ได้เข้าร่วมการประชุมคณะผู้แทนไทยและรายงานผลการเจรจาแก่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และคณะผู้แทนไทย เพื่อเชื่อมโยงและวางแนวทางการเจรจาภายใต้หัวข้อต่าง ๆ ให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุด รวมทั้งบรรลุเป้าหมายที่ดำเนินร่วมกันกับนานาประเทศเพื่อจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นอกจากนี้ ในการเข้าร่วมการประชุม COP30 สอวช. ได้เป็นหน่วยดำเนินการร่วมกับกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดแสดงนิทรรศการความก้าวหน้านวัตกรรมและเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Technology) ของประเทศไทย หรือ “ส่วนจัดแสดงนวัตกรรม (Innovation Zone)” โดยร่วมกับภาครัฐและเอกชน ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) โดยได้ดำเนินการออกแบบเนื้อหาและรูปแบบการจัดแสดงนวัตกรรม และเทคโนโลยีสนับสนุนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศไทย ในพื้นที่ Thailand Pavilion ซึ่งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมคู่ขนานระหว่างการประชุม COP30 เพื่อสะท้อนบทบาทของไทยในการขับเคลื่อนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
