messenger icon
×
หน้าหลัก » ข่าวประชาสัมพันธ์ » กระทรวง อว. โดย สอวช. ร่วมการประชุมคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ครั้งที่ 87 และร่วมรับรองแผน APASTI 2026–2035 ของอาเซียน

กระทรวง อว. โดย สอวช. ร่วมการประชุมคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ครั้งที่ 87 และร่วมรับรองแผน APASTI 2026–2035 ของอาเซียน

วันที่เผยแพร่ 25 มิถุนายน 2025 23 Views

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ครั้งที่ 87 (The 87th Meeting of the ASEAN Committee on Science, Technology and Innovation: COSTI-87) และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 16–20 มิถุนายน 2568 ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีสำนักงานวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติอินโดนีเซีย (BRIN) เป็นเจ้าภาพ

ดร.นุวงศ์ ชลคุป ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สอวช. ปฏิบัติหน้าที่แทน ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ในฐานะผู้แทนประเทศไทยในการประชุมคณะที่ปรึกษาคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ครั้งที่ 18 (The 18th Meeting of the Board of Advisers to the Committee on Science, Technology and Innovation: BAC-18) โดยมี ดร.ปราณปรียา ศรีวรรณวิทย์ ลุนด์แบร์ย ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายความร่วมมือระหว่างประเทศ และ ดร.ดวงกมล พิหูสูตร นักพัฒนานโยบาย สอวช. เข้าร่วมด้วย

สำหรับการประชุม BAC-18 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 มีเป้าหมายเพื่อพิจารณาประเด็นสำคัญ และจัดทำข้อเสนอแนะต่อที่ประชุม COSTI-87 โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ เช่น

  • การควบรวมอนุกรรมการภายใต้ COSTI (Subcommittees: SC) ที่ประชุมเห็นพ้องในหลักการควบรวม SC จาก 9 กลุ่ม เหลือ 5 กลุ่ม ซึ่งมี SCIRD (Sub-Committee on S&T Infrastructure and Resources Development) และ SCB+SCFST (Sub-Committee on Biotechnology & Sub-Committee on Food Science and Technology) โดยประเทศไทยเสนอให้ใช้ข้อมูลกิจกรรมที่เกิดขึ้นจริงในอดีตเป็นฐานประกอบการตัดสินใจ และเสนอให้มีการสื่อสารอย่างรอบด้านกับสมาชิกของแต่ละ SC เพื่อรักษาความต่อเนื่องและสร้างความเข้าใจร่วมกันในช่วงเปลี่ยนผ่าน ก่อนจะมีการประชุม COSTI ครั้งต่อไปที่ไทย ในเดือนตุลาคม 2568 ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมิถุนายน 2569
  • การกำหนดบทบาทของคณะทำงาน APASTI Task Force ที่ประชุมได้หารือการจัดตั้งคณะทำงาน APASTI Task Force เพื่อสนับสนุนการติดตามและขับเคลื่อนแผน APASTI 2026–2035 (ASEAN Plan of Action on Science, Technology and Innovation: APASTI 2026–2035) ซึ่งเป็นกรอบแผนระดับภูมิภาคในการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของอาเซียนในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยได้เสนอให้กำหนดหน้าที่และบทบาทของ Task Force ให้ชัดเจนและได้รับการยอมรับจากทุกประเทศสมาชิก สำหรับข้อเสนอด้านโครงสร้างการติดตามและประเมินผล (Monitoring and Evaluation: M&E) จะได้รับการพิจารณาเพิ่มเติมในลำดับถัดไป ทั้งนี้ ดร.ปราณปรียา และ ดร.ดวงกมล เป็นผู้แทนประเทศไทยในคณะทำงานนี้
  • การให้การสนับสนุนติมอร์-เลสเต ในการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเป็นทางการ การบูรณาการติมอร์-เลสเตเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในฐานะประเทศสมาชิกลำดับที่ 11 ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ที่จะจัดขึ้น ณ ประเทศมาเลเซีย ในเดือนตุลาคม 2568

สำหรับการประชุม COSTI-87 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 18 มิถุนายน 2568 เป็นการประชุมระดับสูง ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีความเกี่ยวข้องกับด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ซึ่งประเทศไทยนำโดย ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวง อว. (สป.อว.) สอวช. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) วิทยาลัยพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีชุมชนแห่งเอเชีย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (adiCET) และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เข้าร่วมรับฟังและให้ข้อมูลระหว่างการประชุมด้วย ทั้งนี้ที่ประชุม COSTI ได้รับรองประเด็นต่าง ๆ ตามที่ BAC ให้คำแนะนำ

สำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ครั้งที่ 21 (The 21st ASEAN Ministerial Meeting on Science, Technology and Innovation: AMMSTI-21) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 มีผู้แทนระดับรัฐมนตรีจากประเทศสมาชิกอาเซียนและเลขาธิการอาเซียนเข้าร่วม โดยประเทศไทยมีนางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุม และได้กล่าวถ้อยแถลงแสดงจุดยืนของไทยต่อแผน APASTI 2026–2035 ที่ประชุม AMMSTI-21 ที่ประชุมได้มีมติรับรองแผน APASTI 2026–2035 และเน้นการขับเคลื่อนความร่วมมือด้าน วทน. เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของภูมิภาคในอนาคต โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนากลไกการดำเนินงานที่เป็นระบบ และการสนับสนุนโครงการที่มีผลกระทบสูงผ่านกลไกการร่วมลงทุน

เรื่องล่าสุด