messenger icon
×
หน้าหลัก » ข่าวประชาสัมพันธ์ » กระทรวง อว. โดย สอวช. ร่วมกับ สกสว. เปิดเวทีสานพลังงานวิจัยสู่การปฏิบัติจริง เผยนโยบายด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ ขับเคลื่อนอนาคตไทยด้วยความรู้เพื่อสังคมยั่งยืน

กระทรวง อว. โดย สอวช. ร่วมกับ สกสว. เปิดเวทีสานพลังงานวิจัยสู่การปฏิบัติจริง เผยนโยบายด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ ขับเคลื่อนอนาคตไทยด้วยความรู้เพื่อสังคมยั่งยืน

วันที่เผยแพร่ 9 กรกฎาคม 2025 203 Views

(8 กรกฎาคม 2568) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดการประชุม “เวทีสานพลังงานวิจัย สู่การปฏิบัติจริง: เมื่อสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ ออกแบบอนาคตประเทศไทย” ณ ห้องประชุมอินฟินิตี้ 2 โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ (รางน้ำ) กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานวิจัยด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ ของกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) และเพื่อส่งเสริมความเข้าใจแผนงานภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 2 ของแผนด้าน ววน. ฉบับปี พ.ศ. 2566 – 2570 รวมทั้งเพื่อระดมความคิดเห็นและสร้างความร่วมมือระหว่างนักวิจัย ผู้กำหนดนโยบาย และผู้ปฏิบัติงาน เพื่อนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริง โดย ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ สอวช. ได้ร่วมบรรยายในหัวข้อ “นโยบายและการขับเคลื่อนงานด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์” และ รศ. ดร.อภิศักดิ์ ธีระวิศิษฐ์ รองผู้อำนวยการ สอวช. ได้กล่าวต้อนรับและชี้แจงวัตถุประสงค์ในการจัดงาน

รศ. ดร.อภิศักดิ์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนเรื่องสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ (Social Sciences, Humanities, and Arts: SHA) เป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าวิทยาศาสตร์ จะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลหันมามองนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากขึ้น เช่น การผลักดันเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การเมืองการปกครอง รัฐศาสตร์ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ผลักดันเรื่องนี้เช่นกัน อาทิ การจัดตั้งวิทยสถานด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย (Thailand Academy of Social Sciences, Humanities and Arts: TASSHA) หรือ “ธัชชา” เพื่อเป็นพื้นที่ในการขับเคลื่อนงานด้าน SHA ให้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น

“งานที่จัดขึ้นครั้งนี้ เพื่อให้เห็นภาพในเชิงนโยบายทางด้าน SHA และเทรนด์ของการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ทั้งในระดับนานาชาติและประเทศไทย รวมถึงเห็นภาพของแผนด้าน ววน. ที่เกี่ยวข้องกับด้าน SHA ว่าให้ความสำคัญกับเรื่องใด นอกจากนี้ ยังเป็นการรับฟังความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมงานว่ามีข้อเสนอในเชิงนโยบายในเรื่องของการบริหารจัดการทุนวิจัยทางด้าน SHA อย่างไร เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการจัดทำระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง โดย สอวช. จะสามารถเข้าไปสนับสนุนในการปลดล็อกเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคปัญหาในการดำเนินงานได้ การประชุมสัมมนาวันนี้จึงไม่ใช่แค่เพียงการพูดคุยกัน แต่เป็นการเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงงานวิจัยทางด้าน SHA และร่วมสร้างโอกาสที่ทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่มีคุณภาพ มั่นคงและเกิดความยั่งยืนได้ในอนาคต” รศ. ดร.อภิศักดิ์ กล่าว

ด้าน ดร.สุรชัย กล่าวว่า งานในครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง สอวช. และ สกสว. ที่ต้องการนำข้อมูลที่ได้จากการประชุมเข้าไปสนับสนุนการปรับปรุงแผนด้าน ววน. ฉบับปรับปรุงที่จะใช้ไปจนถึงปี พ.ศ.2570 รวมถึงร่างแผนด้าน ววน. ฉบับใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปี พ.ศ.2571 เป็นต้นไป โดยในอีกมุมหนึ่ง งานที่ สอวช. ขับเคลื่อนควบคู่ไปกับด้าน ววน. คือการให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนในด้านการอุดมศึกษา ที่ สอวช. พยายามสร้างคนหรือกำลังคนทักษะสูง ที่เรียกว่าเป็น High-Skill Workforce ถึงแม้กำลังคนที่ประเทศต้องการจะมุ่งเน้นไปที่ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) แต่ความรู้ด้าน STEM ก็จะต้องนำมาผนวกเข้ากับความรู้ด้าน SHA ด้วย เช่น ประเด็นเรื่องปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่แม้ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของจริยธรรมในการใช้งาน เป็นต้น

ที่ผ่านมา สอวช. ได้นำเรื่อง SHA เข้ามาช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายในการขยับสถานะทางสังคม ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการขยับสถานะทางสังคม (Factors influencing social mobility) หนึ่งในเรื่องที่สำคัญที่สุดคือการศึกษา ที่พบว่าครอบครัวชนชั้นกลางมีความสามารถการใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการศึกษาได้ดีกว่ากลุ่มอื่น ขณะเดียวกันยังต้องคำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ตามบริบทของสังคมไทยเพื่อขับเคลื่อนในเรื่องนี้ด้วย โดยตัวอย่างการ
บูรณาการเพื่อขยับสถานะทางสังคม ในด้านสังคมศาสตร์ สามารถนำมาใช้วิเคราะห์ปัญหาเชิงโครงสร้าง ออกแบบนโยบายที่ลดความเหลื่อมล้ำ มีประเด็นสำคัญ อาทิ โครงสร้างชนชั้น/ความเหลื่อมล้า สังคมศาสตร์ช่วยวิเคราะห์ว่าระบบเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรมมีผลต่อโอกาสทางรายได้และการศึกษาของแต่ละชนชั้นอย่างไร และทุนทางสังคม (Social Capital) ที่เครือข่ายและการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนส่งผลต่อความสามารถในการเข้าถึงโอกาส ในด้านมนุษยศาสตร์ นำมาใช้ทำความเข้าใจคุณค่า ความหมาย และอุปสรรคเชิงวัฒนธรรมต่อการขยับสถานะทางสังคม มีประเด็นสำคัญ อาทิ ความเชื่อและอัตลักษณ์ มนุษยศาสตร์เน้นการเข้าใจ “โลกทัศน์” ของผู้คน ซึ่งอาจเป็นทั้งปัจจัยขับเคลื่อนและอุปสรรคของการขยับสถานะ หรือการตีความความสำเร็จ ต้องทำความเข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรมควบคู่ไปด้วย และในด้านศิลปศาสตร์ นำมาใช้ในการพัฒนาทักษะชีวิตและอาชีพที่นำไปสู่ความก้าวหน้าทางสังคม มีประเด็นสำคัญ อาทิ การศึกษาแบบยืดหยุ่น (Lifelong & Modular Learning) ช่วยให้คนที่ไม่มีโอกาสในระบบเดิมสามารถกลับมาเรียนรู้และยกระดับตัวเอง หรือการเปิดพื้นที่ให้คนด้อยโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้ โดยเฉพาะในรูปแบบออนไลน์หรือชุมชน

“การจัดประชุมในครั้งนี้ต้องการฟังความเห็นจากผู้เข้าร่วมงาน เพื่อนำข้อมูลนี้ไปสู่ภาคปฏิบัติได้อย่างแท้จริง โดยจะเกิดเป็นกรอบนโยบายภาพใหญ่ที่นำไปสู่การปรับแผน ววน. ฉบับปรับปรุง รวมถึงการจัดทำแผน ววน. และแผนด้านการอุดมศึกษาฉบับใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น อีกทั้งยังทำให้เห็นถึงแนวทางการให้ทุนผ่านหน่วยบริหารและจัดการทุนต่อไปด้วย” ดร.สุรชัย กล่าวทิ้งท้าย

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการบรรยายในหัวข้อ “คลี่ภาพแผนงาน ววน. ยุทธศาสตร์ที่ 2: ปั้นสังคมไทยให้ยั่งยืนด้วยวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม” โดย ศ. ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. และปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์เพื่อการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว” โดย ศ. ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. อีกทั้งมีการจัดกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) และระดมสมองเรื่อง “ปัจจุบันและอนาคตในการขับเคลื่อนงานวิจัยด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ ภายใต้แผนด้าน ววน.” โดยแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มย่อย ได้แก่ กลุ่มที่ 1 สังคมศาสตร์ สังคมวิทยามานุษยวิทยา พฤติกรรมศาสตร์ กลุ่มที่ 2 นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ กลุ่มที่ 3 ศึกษาศาสตร์ ครุศาสตร์ กลุ่มที่ 4 มนุษยศาสตร์ ปรัชญา ศาสนา ประวัติศาสตร์ โบราณคดี กลุ่มที่ 5 นิเทศศาสตร์ สื่อสารมวลชน และ กลุ่มที่ 6 ศิลปะ จิตรกรรม ประติมากรรม

เรื่องล่าสุด