(20 สิงหาคม 2568) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ ภายใต้โครงการพัฒนาและยกระดับการเป็นศูนย์กลางวิชาการและวิชาชีพวิศวกรรมในระบบบริการสุขภาพ (Excellence Center) จัดโดยกองวิศวกรรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ณ ห้องประชุมปราปตี ชั้น 2 กองวิศวกรรมการแพทย์ และระบบออนไลน์ โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมเป็นผู้บริหารและบุคลากรจากกองวิศวกรรมการแพทย์ ตลอดจนผู้พัฒนานวัตกรรมต้นแบบภายใต้โครงการ ซึ่งถือเป็นการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และต่อยอดแนวทางการพัฒนานวัตกรรมสู่การประยุกต์ใช้จริงและการเชื่อมโยงเชิงธุรกิจในอนาคต
ในการนี้ นางสาวมนันยา ชุณหวุฒิยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ สอวช. ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “แนวทางและนโยบายการส่งเสริมการลงทุนด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีการแพทย์ภายในประเทศ และการเข้าถึงแหล่งทุน” โดยได้นำเสนอเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนประเทศด้วยเศรษฐกิจนวัตกรรม ได้แก่ การเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและนวัตกรรมให้ถึงร้อยละ 2 ของ GDP การสร้างผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม (Innovation-Driven Enterprises: IDEs) จำนวน 1,000 รายที่มีรายได้เฉลี่ย 1,000 ล้านบาทต่อปี และการผลักดันให้เกิดยูนิคอร์นไทยอย่างน้อย 7 ราย
นางสาวมนันยาได้กล่าวถึงนโยบายและมาตรการสำคัญที่ สอวช. ผลักดันเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมของประเทศ เช่น การส่งเสริมกลไก University Holding Company ที่ช่วยปลดล็อกให้มหาวิทยาลัยสามารถร่วมลงทุนกับภาคเอกชนได้ การพัฒนาแพลตฟอร์ม ECIP (E-Commercial and Innovation Platform) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการขยายตลาดสินค้านวัตกรรมทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายผู้ให้บริการพัฒนาธุรกิจและการพัฒนาหน่วยบ่มเพาะที่เข้ามาช่วยเสริมกลยุทธ์การเติบโตของผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ ยังได้ยกตัวอย่างมาตรการสนับสนุนด้านการเงินและสิทธิประโยชน์จากหลากหลายแหล่งทุน ทั้งบัญชีนวัตกรรม กองทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน กองทุน Innovation One และกองทุน Ted Fund รวมถึงมาตรการปลดล็อกเชิงกฎหมาย อาทิ พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม (TRIUP Act) และมาตรการทางภาษี เช่น Thailand Plus Package ที่เปิดโอกาสให้นำค่าใช้จ่ายด้านการจ้างบุคลากร STEM หรือการฝึกอบรมบุคลากรไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ในอัตราสูงสุดถึง 250%
การบรรยายครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทของ สอวช. ในการเป็นกลไกกลางที่ออกแบบนโยบาย มาตรการ และเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และสถาบันอุดมศึกษา เพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่เอื้อต่อการเติบโตของผู้ประกอบการและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน
