messenger icon
×
หน้าหลัก » ข่าวประชาสัมพันธ์ » กระทรวง อว. โดย สอวช. ร่วมเสวนาด้านกลยุทธ์ นโยบาย และทิศทางของภาคอุตสาหกรรมและสมาคมวิชาชีพไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในงาน FEIAP 33rd General Assembly and 8th Distinguished Lectures Programme

กระทรวง อว. โดย สอวช. ร่วมเสวนาด้านกลยุทธ์ นโยบาย และทิศทางของภาคอุตสาหกรรมและสมาคมวิชาชีพไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในงาน FEIAP 33rd General Assembly and 8th Distinguished Lectures Programme

วันที่เผยแพร่ 31 กรกฎาคม 2025 31 Views

ดร.ศรวณีย์ สิงห์ทอง ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายเพื่อความยั่งยืน สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เข้าร่วมเสวนาในการประชุม “FEIAP 33rd General Assembly and 8th Distinguished Lectures Programme” ภายใต้หัวข้อ “Strategic Directions from Industry and Professional Bodies Toward Net Zero” โดยมีวิทยากรร่วมเสวนา ประกอบด้วย Assoc.Prof. Ir Ts. Dr Leong kah Hon Department of Environmental Engineering Faculty of Engineering and Green Technology ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤษชัย ศรีบุญมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) และผู้ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.สุชัญญา โปษยะนันทน์ มจพ. จัดโดย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ทางด้านวิศวกรรมของประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก พร้อมทั้งส่งเสริมบทบาทของวิศวกรในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน

ดร.ศรวณีย์ กล่าวถึงการดำเนินงานระหว่าง สอวช. และภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ซึ่งมีการดำเนินงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 จนถึงปัจจุบันที่โดยส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมในระดับนโยบายเพื่อสร้างการเปลี่ยนผ่านให้ผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรม อาทิ การดำเนินการร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในการพัฒนาตัวชี้วัดเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (Green Enterprise Indicator: GEI) ซึ่งอยู่ในระหว่างการเข้าคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการตรวจสอบและรับรอง เพื่อเป็นตัวชี้วัดระดับมาตรฐานแห่งชาติต่อไป ตัวชี้วัดนี้มีเพื่อเชื่อมโยงระหว่างระบบนิเวศสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านให้กับผู้ประกอบการดำเนินการเศรษฐกิจหมุนเวียนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมสอดแทรกให้เกิดการใช้นวัตกรรมและสอดรับกับหลัก ESG (กรอบการประเมินและพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน) จนนำไปสู่ห่วงโซ่อุปทานสีเขียว (Green Supply Chain) ต่อไปได้

รวมถึงได้ยกตัวอย่างงานที่ สอวช. ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ขยายผลตาลเดี่ยวโมเดลมาสู่การพัฒนาร่างต้นแบบดิจิทัลแพลตฟอร์ม โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการจัดการของเสียตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ให้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางขับเคลื่อนสระบุรีแซนด์บ็อกซ์ (Saraburi Sandbox) ต่อไป ซึ่งภายใต้ Saraburi Sandbox นี้ สอวช. ได้ร่วมกับ สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ศึกษาเทคโนโลยีขั้นสูงที่เข้าไปช่วยจัดการการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ โดยวิเคราะห์ตลาดและความเป็นไปได้ในการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซไฮโดรเจนมาผลิตเมทานอลในพื้นที่เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจลงทุนทางเทคโนโลยีและการพัฒนาต่อไป โดยเชื่อมกับกลไกการเงินภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC)

ดร.ศรวณีย์ ได้กล่าวสรุปปิดท้ายการเสวนาว่า สอวช. ยังมีบทบาทสำคัญในเวทีการประชุม COP (Conference of the Parties) ในฐานะผู้เจรจาด้านเทคโนโลยีและงานวิจัยร่วมกับกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (สส.) โดยประเด็นที่ถกกันในเวทีโลกที่น่าสนใจคือกลไกสำคัญที่จะเชื่อมโยงระหว่างกลไกด้านเทคโนโลยี (Technology mechanism) และกลไกด้านการเงิน (Financial mechanism) เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ให้ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบันสำหรับประเทศไทยต่อไป

เรื่องล่าสุด