messenger icon
×
หน้าหลัก » ข่าวประชาสัมพันธ์ » กระทรวง อว. โดย สอวช. จัดประชุมขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไทยสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ สัญจร ครั้งที่ 1 พร้อมเผยนโยบายสนับสนุนมหาวิทยาลัยในการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero

กระทรวง อว. โดย สอวช. จัดประชุมขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไทยสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ สัญจร ครั้งที่ 1 พร้อมเผยนโยบายสนับสนุนมหาวิทยาลัยในการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero

วันที่เผยแพร่ 31 กรกฎาคม 2025 277 Views

(30 กรกฎาคม 2568) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และเครือข่ายมหาวิทยาลัยยั่งยืนแห่งประเทศไทย (Sustainable University Network of Thailand: SUN Thailand) จัดการประชุมขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไทยสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ สัญจร ครั้งที่ 1 ภายใต้โครงการเครือข่ายมหาวิทยาลัยขับเคลื่อนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ระยะที่ 2 โดยมี รศ.วงกต วงศ์อภัย รองผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวเปิดงานและบรรยายพิเศษในหัวข้อ “บทบาทเชิงนโยบายและเป้าหมายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการขับเคลื่อนสถาบันอุดมศึกษา สู่เป้าหมาย Net Zero Campus”

รศ.วงกต กล่าวว่า สอวช. พบว่ามีประเด็นความท้าทายและการเปลี่ยนผ่านต่าง ๆ เกิดขึ้นในสังคม เช่น ประเด็นเรื่องการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ซึ่งถือเป็นปัจจัยภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต้องการการบูรณาการขับเคลื่อนหลายศาสตร์ประกอบกัน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลกระทบต่อหลักสูตรการเรียนในมหาวิทยาลัย รวมถึงการผลิตกำลังคน ทำให้มหาวิทยาลัยต้องปรับตัว เพื่อเตรียมพร้อมผลิตบัณฑิต ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลง ให้สามารถแข่งขันในสังคมและแข่งขันกับต่างประเทศได้

สอวช. ได้ริเริ่มโครงการ Net Zero Campus ขึ้น โดยต้องการให้แต่ละมหาวิทยาลัยได้มาร่วมออกแบบแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมกับบริบทของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ เพื่อให้การขับเคลื่อนเกิดขึ้นจากภายในมหาวิทยาลัยก่อน และเมื่อมหาวิทยาลัยสามารถดำเนินการได้แล้วจะสามารถสนับสนุนการขับเคลื่อนในท้องถิ่น สังคม ชุมชน และอุตสาหกรรมในพื้นที่ของตนเองได้ รวมถึงการบูรณาการการทำงานร่วมกับจังหวัด ซึ่งมหาวิทยาลัยสามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานในระดับจังหวัดเพื่อร่วมขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกในระดับประเทศต่อไป

“การจัดประชุมสัญจรนี้ จัดขึ้นที่ภาคกลางเป็นครั้งแรก ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้มหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเป้าหมายของประเทศ โดยเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contributions: NDC) ในปี ค.ศ. 2030 มีความสำคัญมาก มหาวิทยาลัยจึงควรร่วมกันขับเคลื่อน โดยการลดก๊าซเรือนกระจกภายในมหาวิทยาลัยจะเป็นส่วนสำคัญที่สามารถนำมารวบรวมเพื่อรายงานผลในภาพรวมของประเทศได้” รศ.วงกต กล่าว

ในช่วงการบรรยาย รศ.วงกต ได้กล่าวถึงภาพรวมโครงสร้างหน่วยงานและคณะกรรมการในระบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) โดยมีหน่วยบริหารและจัดการทุน ภายใต้กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ที่มีแนวทางการจัดสรรงบประมาณสำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย ในส่วนของ สอวช. นอกจากทำนโยบายทั้งในด้านการอุดมศึกษาและด้าน ววน. ยังมีบทบาทเป็นหน่วยประสานงานกลางด้านการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย (National Designated Entity: NDE) และเป็นหน่วยประสานงานโครงการการประเมินความต้องการเทคโนโลยีเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย (Technology Needs Assessment: TNA)

บทบาทของ สอวช. ที่ผ่านมา ยังได้สนับสนุนการทำงานเพื่อขับเคลื่อนในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อน “สระบุรีแซนด์บ็อกซ์” ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ โดยมีการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่และกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาเขตนวัตกรรม Net Zero Emission อีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงกลไกการสนับสนุนการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศผ่านการเป็น NDE หาโอกาสเชื่อมโยงกลไกด้านเทคโนโลยีและการเงินภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) และยังมีการเชื่อมโยงเครือข่าย เพื่อทำความเข้าใจ อาทิ การนำสื่อมวลชนลงพื้นที่เยี่ยมชมนวัตกรรมในโครงการฯ

สอวช. ยังได้ตั้งเป้าหมายสำคัญที่จะร่วมขับเคลื่อนคือการสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจก 10 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยมีตัวอย่างโครงการริเริ่มที่จะสนับสนุนเป้าหมายนี้คือ โครงการ Net Zero Campus ที่ได้ตั้งเป้านำร่อง 50 มหาวิทยาลัยให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ นอกจากนี้ สอวช. ยังได้ทำข้อมูลสำรวจความต้องการบุคลากรทักษะสูงรายอุตสาหกรรมใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ในระยะ 5 ปี พ.ศ. 2568-2572 (Talent Landscape 2025-2029) พบว่า อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพ เคมีชีวภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว มีความต้องการกำลังคนกว่า 13,372 ตำแหน่ง และยังทำงานร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการจัดทำประกาศทักษะที่พึงประสงค์ของกำลังคนในสาขาต่าง ๆ โดยทักษะอาชีพด้านสิ่งแวดล้อมจะแบ่งเป็น ทักษะของผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาความยั่งยืน (Sustainability Development Specialist) และทักษะของผู้เชี่ยวชาญด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint Specialist) จากนั้นจะมีการจัดทำหลักสูตรฐานทักษะ การประเมินทักษะ และได้ผลลัพธ์เป็นใบแสดงผลการศึกษาบนหลักสูตรฐานทักษะ (Skill Transcript) เพื่อให้นักศึกษาสามารถนำไปใช้สมัครงานในสาขาและตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับอาชีพสีเขียวได้

รศ.วงกต ยังได้ชี้ให้เห็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จ จากผลการวิเคราะห์การเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนของภาคอุตสาหกรรมไทย ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือภาวะผู้นำและโครงสร้างที่ชัดเจน โดยผู้นำของหน่วยงาน จะต้องเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ เมื่อมีจุดเริ่มต้นที่ชัดเจน และมีองค์ประกอบอื่น ๆ เข้ามาสนับสนุนก็จะทำให้การเปลี่ยนผ่านทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ

ในการประชุมนี้ ผศ.ดร.พูลศักดิ์ โกษียาภรณ์ รองผู้อำนวยการ สกสว. ได้กล่าวถึงแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ พ.ศ. 2566-2570 โดยเน้นไปที่ 4 ยุทธศาสตร์ของแผนด้าน ววน. ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจไทย, การยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อม, การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรมระดับขั้นแนวหน้าที่ก้าวหน้าล้ำยุค, และการพัฒนากำลังคนและสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และการลงทุนด้าน ววน. และยังมีการจัดสรรงบประมาณของกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ทั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental Fund: FF), งบประมาณเพื่อสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund: SF), และงบประมาณการนำงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ตามเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. (Research Utilization: RU)

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดช่วงระดมความคิดเห็นจากเครือข่ายมหาวิทยาลัยในหัวข้อ “แนวทางและแผนการดำเนินงาน (Roadmap) ในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไทยสู่เป้าหมาย Net Zero Campus” ดำเนินรายการโดย รศ.ดร.สิริชัย คุณภาพดีเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ดร.ศรวณีย์ สิงห์ทอง ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายเพื่อความยั่งยืน สอวช. เป็นช่วงที่เปิดโอกาสให้ตัวแทนผู้เข้าร่วมจากทุกหน่วยงานได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงแนวทางการขับเคลื่อน ปัญหา/อุปสรรคในการขับเคลื่อน รวมถึงนำเสนอข้อคิดเห็นเพื่อนำไปใช้ในการเดินหน้าโครงการของแต่ละมหาวิทยาลัยและภาพรวมในระดับประเทศต่อไปด้วย

เรื่องล่าสุด