(5 มิถุนายน 2568) ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เข้าร่วมพิธีเปิดและร่วมอภิปรายในหัวข้อ “Climate Change: A Human Security Dimension” ในการสัมมนา Thailand-Spain Forum ครั้งที่ 3 ภายใต้แนวคิด “Sustainability: Opportunities and Challenges” จัดโดย ศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ (ISC) สถาบันการต่างประเทศเทวะวงศ์วโรปการ ร่วมกับ สถาบัน CASA Asia ประเทศสเปน ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยงานครั้งจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้และแลกเปลี่ยนมุมมองด้านต่าง ๆ ระหว่างผู้ปฏิบัติงานในภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาควิชาการของทั้งสองประเทศ ในประเด็นเกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายของการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการสัมมนา


ดร.สุรชัย กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่า แม้เราจะสามารถหาแนวทางหยุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ได้ แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะยังคงเกิดขึ้นอยู่ ดังนั้น นอกจากจะมองถึงแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) เรายังต้องให้ความสำคัญกับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation) ด้วย โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทยที่กลไกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้นต้องอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

“2-3 ปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์ของประเทศไทยที่อาจไม่สามารถแข่งขันในรูปแบบเดิมได้อีกต่อไป ทั้งในเรื่องแรงงาน การส่งออก หรือแม้แต่การท่องเที่ยว ประเทศเราต้องการอุตสาหกรรมใหม่ที่เข้ามาเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับประเทศ รัฐบาลจึงริเริ่มเสนอนโยบายโมเดลเศรษฐกิจบีซีจีขึ้นมา จากความเข้มแข็งของเรา ทั้งในเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพและความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยนโยบายนี้จะมุ่งเน้นใน 4 สาขา ได้แก่ เกษตรและอาหาร พลังงานและวัสดุ สุขภาพและการแพทย์ การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์” ดร.สุรชัย กล่าว
ข้อมูลจากงานวิจัยในสาขาการเกษตร เรามุ่งเน้นแนวทางทำให้การผลิตมีความยั่งยืน โดยคำนึงถึง 3 ส่วนคือการพยากรณ์อากาศและการเตือนภัยด้านสภาพอากาศ (Weather Forecast and Climate Warning) มีการสร้างแบบจำลองข้อมูลและคอมพิวเตอร์สำหรับการพยากรณ์อากาศ รวมถึงระบบข้อมูลแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า ส่วนต่อมาคือเกษตรแม่นยำ (Precision Farming) มีชุดทดสอบดิน การผลิตปุ๋ยที่ปรับแต่งได้ มีระบบอัตโนมัติและการควบคุมเครื่องจักร เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งเตือนในการปลูกพืชผล มีระบบการประกันภัยพืชผล โดยเราไม่ได้ต้องการแค่เทคโนโลยีขั้นสูงเท่านั้น แต่ต้องเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับเกษตรกรด้วย และส่วนสุดท้ายคือเรื่องพันธุวิศวกรรมที่เป็นความเข้มแข็งของเราในฐานะประเทศเกษตรกรรม และเรายังมีกำลังคนสมรรถนะสูงในด้านวิศวกรรมชีวภาพจำนวนมากที่พร้อมจะเข้ามาช่วยประเทศในด้านนี้

ดร.สุรชัย ยังได้กล่าวถึงโอกาสทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง (Advanced Biotechnology) อาทิ การปรับปรุงพืชผลและปุ๋ยอินทรีย์ เอนไซม์และกระบวนการชีวภาพเพื่อสารเคมีที่ยั่งยืน ผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง และสารชีวภาพ โดยประเทศไทยได้ตั้งกลยุทธ์ด้านชีววิทยาสังเคราะห์ (Synthetic Biology: SynBio) ในระยะ 10 ปี มีเป้าหมายใหญ่ผลักดันให้ SynBio เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการเชิงนวัตกรรมและการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศ มีแนวทางขับเคลื่อนทั้งในด้านการสร้างระบบนิเวศส่งเสริมศักยภาพการวิจัยและเพิ่มการยอมรับของอุตสาหกรรม การสร้างรากฐานความรู้ที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงการยกระดับความสามารถด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมและการขยายตลาด




