สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ (ม.อ.) จัดประชุมหารือการจัดทำแผนที่นำทางด้านเทคโนโลยีฟิวชันของประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์สถานภาพและระบบนิเวศนวัตกรรมของเทคโนโลยีฟิวชัน พร้อมทั้งกำหนดทิศทางและเสนอแนวทางการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีฟิวชันและเทคโนโลยีพลาสมาที่เหมาะสมสำหรับบริบทของประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องประชุมหว้ากอ 2 สอวช.


รศ.วงกต วงศ์อภัย รองผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวเปิดประชุม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่ง สอวช. ร่วมกับ สกสว. และ บพค. ได้ร่วมมือกับพันธมิตรจากภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน ในการจัดทำแผนที่นำทางการวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research Roadmap) ของประเทศในสาขาต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศการวิจัยขั้นแนวหน้าในประเทศไทย ทั้งนี้ “เทคโนโลยีฟิวชัน” เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากประเทศชั้นนำทั่วโลก เนื่องจากมีศักยภาพในการผลิตพลังงานสะอาดและยั่งยืน ปราศจากกากกัมมันตรังสีอันตรายอีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูงกว่าพลังงานนิวเคลียร์รูปแบบเดิม และอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงระบบพลังงานของโลกในอนาคต

รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) กล่าวถึงความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีฟิวชันในระดับโลกและในประเทศไทย โดยเน้นสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายระดับนานาชาติ พร้อมวางเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีฟิวชันในระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2580) โดยเน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีฟิวชันของภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งการสร้างงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรทั้งในสถาบันการศึกษา สถาบันวิจัยและภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีฟิวชันประยุกต์ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ระบบราง อวกาศ การแพทย์ และการเกษตร เป็นต้น

ดร.จิตติ มังคละศิริ รองผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) กล่าวถึงการดำเนินงานที่สำคัญของวิทยสถานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (Thailand Academy of Sciences, TAS) “ธัชวิทย์” ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนประเทศใน 3 มิติ สำคัญคือ
- Frontier Think Tank
- Frontier Science Alliance
- Future Graduate Platform
โดยมุ่งเน้นงานวิจัยขั้นแนวหน้าพร้อมส่งเสริมเทคโนโลยีและความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนในอนาคต

ผศ.ดร.บุญญฤทธิ์ ฉัตรทอง รองคณบดีฝ่ายวิจัย นวัตกรรม และประชาสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า การจัดทำแผนที่นำทางด้านเทคโนโลยีฟิวชันของประเทศไทย ได้ศึกษาความก้าวหน้าและแนวโน้มเทคโนโลยีจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร จีน และญี่ปุ่น พร้อมทั้งประเมินสถานภาพและระบบนิเวศนวัตกรรมของการพัฒนาเทคโนโลยีฟิวชันของประเทศไทย เพื่อนำมาวิเคราะห์โอกาสความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีฟิวชันในบริบทของประเทศไทย สำหรับจัดทำแผนที่นำทางด้านเทคโนโลยีฟิวชันของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีฟิวชัน (Expert Consortium) ครอบคลุมทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำความสำคัญของการจัดทำแผนที่นำทางดังกล่าวว่า ควรมีเป้าหมายที่ชัดเจนพร้อมกำหนดระยะเวลาในการดำเนินงานที่เหมาะสม โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร งานวิจัย กฎหมายและกฎระเบียบ ตลอดจนการบูรณาการความร่วมมือในทุกภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและรับรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีฟิวชันแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

การประชุมดังกล่าวมีตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาเข้าร่วม อาทิ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.)