เมื่อวันที่ 20 – 24 มกราคม 2568 ฝ่ายนโยบายความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกับ Division of Science and Technology Policy ภายใต้ Directorate for Science, Technology and Innovation ของ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่องยุทธศาสตร์วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (STI strategy for carbon neutrality and transitions workshop) ในโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและ OECD ด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้วย วทน. ในภาคการขนส่ง ภาคพลังงานไฟฟ้า และภาคเกษตรกรรม รวมทั้งหารือแลกเปลี่ยนการดำเนินงานต่าง ๆ ร่วมกัน

ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ สอวช. ร่วมหารือกับผู้แทนจาก OECD ในการดำเนินงานภายใต้โครงการ Supporting STI strategy for carbon neutrality and transitions และโอกาสในการขยายความร่วมมือในด้านนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งแนวทางการดำเนินการของ สอวช. เพื่อสนับสนุนกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD (Accession Process) ของประเทศไทย

ในการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ รศ.วงกต วงศ์อภัย รองผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวเปิดงาน โดยกล่าวว่า ประเทศไทยได้เข้าร่วมคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Committee for Scientific and Technological Policy: CSTP) ภายใต้ OECD ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 ในสถานะ Participant โดย สอวช. เป็นตัวแทนประเทศไทยที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ทำให้ สอวช. ได้มีมุมมองที่เกี่ยวข้องกับนโยบายด้าน วทน. ในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาแนวทางด้านนโยบายในประเทศได้ นอกจากนี้ การดำเนินงานต่าง ๆ ที่ทำร่วมกับ CSTP นับเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน Accession Process ของไทย หลังจากที่คณะมนตรีของ OECD มีมติเห็นชอบแผนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทยในปีที่ผ่านมา

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและ OECD ระยะที่สอง (Thailand – OECD Country Programme Phase II) ซึ่ง สอวช. ดำเนินการร่วมกับ OECD ตั้งเป้าหมายที่จะสนับสนุนนักนโยบายของไทยรวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการตั้งกลยุทธ์และใช้ประโยชน์จากระบบ วทน. เพื่อไปถึงเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทสำคัญอย่างมากที่จะช่วยในการไปถึงเป้าหมายนี้ และประเทศไทยมีโอกาสในการสร้างจุดแข็งในระบบ วทน. และในภาคอุตสาหกรรม โดยภาคอุตสาหกรรมต้องเข้ามามีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระบบการผลิตและการบริโภค โครงการนี้จึงเน้นไปที่ 3 อุตสาหกรรมที่เป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในขณะเดียวกันก็เป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศด้วย ได้แก่ ภาคการขนส่ง ภาคพลังงานไฟฟ้า และภาคการเกษตร

การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจากหลายหน่วยงาน ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน มหาวิทยาลัย รวมถึงหน่วยงานด้านวิจัยและเทคโนโลยี ซึ่ง สอวช. ตระหนักถึงความสำคัญจากมุมมองที่หลากหลายของผู้เข้าร่วมทุกคน ที่ได้เข้ามาร่วมกันแบ่งปันข้อมูลความเชี่ยวชาญ ความสนใจ และประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแต่ละอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยนำไปสู่แนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการหรือแผนการปฏิรูปนโยบายด้าน วทน. ของประเทศได้ต่อไป